บริการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU

บริการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU

บริการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU

บริการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU สัญชาติพม่า ลาว กัมพูชา พร้อมการดำเนินการด้านเอกสารวีซ่าทำงานของแรงงานอย่างครบถ้วน

📮ติดต่อเรา
บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ จี.เอ็ม.จี.กรุ๊ฟ จำกัด
ใบอนุญาตเลขที่ บจ.0154/2561

☎️Phone : 034-112568 สำนักงานใหญ่
~ 083-1310264 (คุณเปิ้ล)
~ 084-0999824 (คุณเต้)
~ 082-4255553
กด0 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
กด1 ต่ออายุแรงงาน
กด2 ฝ่ายMOU
กด3 ฝ่ายแจ้งเข้า-แจ้งออก
กด4 ฝ่ายบัญชี
กด5 ฝ่ายกฎหมาย
📱 Facebook: m.me/111810180274456
💚 Line: @MOUTHAI
💌 clmv@gmgmou.com
————————————-
🧑‍🔧 บริการนำเข้าคนต่างด้าวใหม่ ( New MOU )
☺️ บริการนำเข้าคนต่างด้าวที่ถูกกฏหมาย ( Return MOU )
💌 ต่อวีซ่า ต่ออายุ 90วัน ทำประกันสังคม เอกสารครบวงจร
🧑‍🔧 แจ้ง Passport บัตรชมพู ให้คนงานต่างด้าว
💌 ดูแลทั้งก่อนและหลังส่งแรงงาน
☺️ ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 100 %
💌 ระบบออนไลน์ สะดวก ให้กับนายจ้าง
—————————————


รวดเร็ว ทันสมัย อย่างมืออาชีพ

ครบวงจรเรื่อง แรงงานต่างด้าว ต้อง GMG GROUP จะเป็นสัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา และ เวียดนาม หลากหลายงานต่าง ๆ ได้อย่างประสิทธิภาพ

ทั้งดำเนินการเอกสาร ครบถ้วน ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมให้บริการกับนายจ้างและลูกจ้างอย่างเต็มที่

 

นำเข้าแรงงานลาว MOU ครบวงจร

นำเข้าแรงงานลาว MOU ครบวงจร

นำเข้าแรงงานลาว MOU ครบวงจร

หาแรงงานต่างด้าว MOU อยู่เหรอ? มาทางนี้เลยครับ จี.เอ็ม.จี.กรุ๊ฟ จํากัด มีบริการนำเข้าแรงงานสัญชาติลาว ถูกต้องตามกฎหมาย มั่นใจ

Phone : 034-112568 สำนักงานใหญ่
~ 083-1310264 (คุณเปิ้ล)
~ 084-0999824 (คุณเต้)
~ 082-4255553
กด0 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
กด1 ต่ออายุแรงงาน
กด2 ฝ่ายMOU
กด3 ฝ่ายแจ้งเข้า-แจ้งออก
กด4 ฝ่ายบัญชี
กด5 ฝ่ายกฎหมาย

รวดเร็ว ทันสมัย อย่างมืออาชีพ
ครบวงจรเรื่อง แรงงานต่างด้าว ต้อง GMG GROUP จะเป็นสัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา และ เวียดนาม หลากหลายงานต่าง ๆ ได้อย่างประสิทธิภาพ ทั้งดำเนินการเอกสาร ครบถ้วน ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พร้อมให้บริการกับนายจ้างและลูกจ้างอย่างเต็มที่

จัดส่งแรงงานต่างด้าว MOU พม่า ลาว กัมพูชา ถูกต้องตามกฎหมาย

จัดส่งแรงงานต่างด้าว MOU พม่า ลาว กัมพูชา ถูกต้องตามกฎหมาย

บริษัทจัดหาและนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU พม่า ลาว กัมพูชา ถูกกฎหมาย

ดูแลทุกขั้นตอน ไม่มีขั้นต่ำ ให้คำปรึกษาฟรี ต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ติดต่อ GMGMOU
📮ติดต่อเรา
บริษัท นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ จี.เอ็ม.จี.กรุ๊ฟ จำกัด
ใบอนุญาตเลขที่ บจ.0154/2561
☎️Phone: 034-112568
💚Line: @MOUTHAI
💌clmv@gmgmou.com

 

เห็นชอบขยายเวลาออกหนังสือคนประจำเรือ จัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวประมงกัมพูชา ลาว เมียนมา

เห็นชอบขยายเวลาออกหนังสือคนประจำเรือ จัดทำทะเบียนประวัติแรงงานต่างด้าวประมงกัมพูชา ลาว เมียนมา

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) มีมติเห็นชอบให้ แรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมาที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ภายหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 สามารถจัดทำทะเบียนประวัติ และขอรับหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) เพื่อทำงานในกิจการประมงทะเลได้ พร้อมขยายระยะเวลาการดำเนินการออกไปอีก

วันที่ 7 มกราคม 2562 ที่ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน  นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วมประชุม

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาการดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงทะเลเพิ่มเติม โดยสืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง ฉบับที่ 2 พ.ศ.2561 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2561 และกรมประมงได้ออกประกาศให้คนต่างด้าวจัดทำทะเบียนประวัติและยื่นคำขอรับ Seabook ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม 2561 – 31 มกราคม 2562 ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศเรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา สามารถยื่นคำขอรับหนังสือคนประจำเรือเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานกับนายจ้างในกิจการประมงทะเล ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2561

จากตามประกาศกระทรวงมหาดไทยที่ได้กำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานดังกล่าว ต้องเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรก่อนหรือในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 และ (1) ระยะเวลาการอนุญาตสิ้นสุดลงแต่ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร (2) ระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังเหลืออยู่ (3) ไม่มีรอยตราประทับตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าในหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือหนังสือรับรองสถานะบุคคล แต่มีหลักฐานการจัดทำทะเบียนประวัติหรือบัตรประจำตัวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการประสานงานการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (อกนร.) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาดังนี้  1. มอบหมายกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ครอบคลุมคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561  2.  ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการออกหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ออกไปอีก  3. ให้กระทรวงการต่างประเทศมอบอำนาจการตรวจลงตรา (Non Immigrant L-A) ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้น เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ภายหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 สามารถเข้าจัดทำทะเบียนประวัติ รับหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ขอรับการตรวจลงตราและประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ซึ่งจะสามารถจัดหาแรงงานต่างด้าวที่มีเอกสารแสดงตนอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาทำงานในกิจการประมงทะเลได้เพิ่มขึ้น ที่ประชุม กนร. ในวันนี้จึงมีมติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ครอบคลุมคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองภายหลังวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561  2. ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการออกหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ออกไปอีก และ 3. ให้กระทรวงการต่างประเทศ มอบอำนาจการตรวจลงตรา (Non Immigrant L-A) ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยถึงผลความคืบหน้าการจัดทำหนังสือคนประจำเรือ ตามมาตรา 83 ที่ศูนย์ OSS ว่า ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน – 4 มกราคม  2562 มีนายจ้าง จำนวน 1,901 ราย มาแจ้งความต้องการแรงงานต่างด้าว จำนวนทั้งสิ้น 25,920 คน แรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนคนประจำเรือตั้งแต่วันที่ 3-4 มกราคม 2562 จำนวนทั้งสิ้น 1,813 คน เป็นเมียนมา 1,080 คน คิดเป็นร้อยละ 59.56 ลาว 49 คน คิดเป็นร้อยละ 2.70 และกัมพูชา 684 คน คิดเป็นร้อยละ 37.72 ของผู้ที่มาจัดทำ Seabook โดยจังหวัดที่มาดำเนินการ 5 ลำดับแรกได้แก่ 1. ปัตตานี 2. ชุมพร 3. ตราด 4. ระยอง 5. สมุทรสงคราม

ไทย-ลาว ประชุมเห็นพ้องแก้ปัญหา แรงงานลาว ทำงานผิดกฎหมายในไทย พร้อมหนุนไทยเป็นประธานอาเซียนปี 62

ไทย-ลาว ประชุมเห็นพ้องแก้ปัญหา แรงงานลาว ทำงานผิดกฎหมายในไทย พร้อมหนุนไทยเป็นประธานอาเซียนปี 62

ไทย-ลาว ประชุมเห็นพ้องแก้ปัญหา แรงงานลาว ทำงานผิดกฎหมายในไทย พร้อมหนุนไทยเป็นประธานอาเซียนปี 62

 

ไทย-ลาว ชื่นมื่น ประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว  สองฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือทุกด้าน ย้ำความสัมพันธ์มิตรภาพไทย-ลาว  เดินหน้าเร่งรัดการพัฒนาเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว เพื่อส่งเสริมด้านการค้าไทย-ลาว  พร้อมสนับสนุนไทยเป็นประธานอาเซียน ปี 2562 ขณะที่ รมว.แรงงาน เผยรัฐบาลไทย-ลาว เห็นชอบสานต่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง  ยืนยันส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม

วันที่ 14 ธันวาคม 2561  พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง รมยง สุรกิจบรรหาร รองปลัดกระทรวงแรงงาน และนางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน ร่วมการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ  (Joint Cabinet Retreat : JCR) ไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ณ นครหลวงเวียงจันทน์  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)  โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่ายไทย  นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว  เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนและประธานร่วมฝ่าย สปป.ลาว

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ  ไทย – ลาว ครั้งที่ 3 ว่า การประชุมในครั้งนี้ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว  โดยที่ประชุมได้ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ เช่น ด้านการเมืองและความมั่นคง ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขยายความสัมพันธ์ มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนร่วมกัน  ด้านการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสานต่อความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว  ว่าด้วยความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ ลงนามไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ที่แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว  ด้านเศรษฐกิจ เช่น  การเชื่อมโยงด้านคมนาคม-ขนส่งอย่างไร้รอยต่อ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้เร่งรัดการพัฒนาเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมไทย-ลาว และเชื่อมต่อกับอนุภูมิภาคและภูมิภาค โดยการดำเนินการตาม  ACMECS Master Plan ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาถนน ทางรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำโขง ท่าอากาศยาน และการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการคมนาคมของประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นต้น

สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะสานต่อความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งยังยืนยันที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกันทั้งในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน การจ้างงาน การคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว ฉบับลงนามเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยและ สปป.ลาวได้ร่วมแสดงความยินดีที่ปี 2561 เป็นโอกาสครบรอบ 25 ปีของการก่อตั้งสมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพและสามคมลาว-ไทยเพื่อมิตรภาพ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน  เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-ลาวในภาพรวม

รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันให้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านการพัฒนาไทย-ลาว ปี 2562 – 2566 (ระยะ 5 ปี) ทั้งยังเห็นพ้องให้จัดการฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ในปี 2563 และ สปป.ลาวยังพร้อมสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของราชอาณาจักรไทยในปี 2562 เพื่อยกระดับความร่วมมือภายในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก อันจะช่วยให้อาเซียน ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ไปด้วยกัน ซึ่งจะนำผลการประชุมที่ตกลงในครั้งนี้ไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา :https://www.doe.go.th/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า